ชื่อ ระบำกิ่งไม้เงินทอง
ประเภทการแสดง รำ (เบิกโรง)
ประวัติที่มา
ระบำกิ่งไม้เงินทอง
เป็นการแสดงชุนหนึ่งในบทพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ที่ทรงพระราชนิพนธ์บทละคร ตลอดจนบทเบิกโรงต่างๆ ไว้มากมาย
ปรากฏในหนังสือตำนานละครอิเหนา พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยามดำรงราชานุภาพความว่า
“บทละครหลวงในราชกาลที่
๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์
ตอนพระรามเดินดงขึ้นใหม่ .... และบทรำต้นไม้ทองเงิน
เบิกโรงอีกหลายบท...............”
นอกจากนี้
พระยาอนุมานราชธน ได้อธิบายถึงการรำกิ่งไม้เงินทองไว้ในหนังสืออธิบายนาฏศิลป์ไทย
ของกรมศิลปากรว่า
“รำดอกไม้เงินทอง
เป็นระบำเบิกโรงอย่างหนึ่ง เข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้า ฯ ให้ประดิษฐ์ดัดแปลงมาจากการรำ “บรรเลง” ซึ่งเป็นการรำเบิกโรงของละครไทยแต่โบราณ เป็นแต่รำดอกไม้เงินทอง
โปรดให้ผู้รำแต่งเป็นเทพบุตรทั้งคู่
และมือทั้งสองถือดอกไม้เงินทองข้างละมือแทนถือกำหางนกยูง
แล้วทรงพระราชนิพนธ์บทร้องขึ้นประกอบการฟ้อนรำ
โดยมีพระราชประสงค์ไปในทางให้เป็นสวัสดิมงคล ดังปรากฏในบทพระราชนิพนธ์”
เมื่อนั้น
สองมือถือดอกไม้เงินทอง
เบิกโรงละครในให้ประหลาด
ท่าก็งามตามครูดูแม่นยำ
หางนกยูงอย่างเก่าเขาเล่นมาก
คงแต่ท่าไว้ให้งามตามละคร
รำไปให้เห็นเป็นเกียรติยศ
ว่าพวกฟ้อนฝ่ายในใช้ราชการ
ย่อมช่วงใช้ดอกไม้เงินทอง
ถึงผิดอย่างไปใครจะไม่ชม ไท้ท้าวเทพบุตรบุรุษสอง
ป้องหน้าออกมาว่าจะรำ
มีวิลาศน่าชมคมขำ
เป็นแต่ทำอย่างใหม่มิใช่ฟ้อน
ไม่เห็นหลากจืดตามาแต่ก่อน
ที่แต่งตนก้นไม่งอนตามโบราณ
ปรากฏทุกตำแหน่งแหล่งสถาน
สำหรับพระภูบาลสำราญรมย์
ไม่เหมือนของเขาอื่นมีดื่นถม
ก็ควรนิยมว่าเป็นมงคลเอย”
จากเอกสารทางวิชาการดังกล่าว
สามารถสรุปได้ว่า
การรำกิ่งไม้เงินทองเป็นการแสดงเบิกโรงของละครในชุดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากพระรามประสงค์ในราชกาลที่
๔ ที่ทรงพระกรุณโปรดเกล้าให้ละครหลวงในสมัยนั้นฝึกหัดขึ้น และใช้แสดงในงานอันเป็นมงคลต่างๆ
โดยในแล้วคงจะได้รับเครื่องราชบรรณาการดอกไม้เงินทองจากประเทศต่างๆ ส่งมาทูลเกล้า
ฯ ถวายไว้เป็นอันมาก
จึงโปรดให้พวกละครหลวงถือดอกไม้เงินทองรำเบิกโรงรำเบิกโรงแทนการถือหางนกยุงแบบการรำบรรเลง
และยังทรงพระราชนิพนธ์บทขับร้องรำดอกไม้เงินทองขึ้น
ซึ่งเดิมการรำบรรเลงไม่มีบทร้อง ผู้แสดงร่ายรำตามทำนองเพลงหน้าพากย์เท่านั้น
ในเวลาเดียวกันนี้ก็ทรงพระราชนิพนธ์บทขับร้องรำฉุยฉายกิ่งไม้เงินทองให้ตัวละครฝ่ายนาง
๒ คน ออกมารำฉุยฉายเบิกโรงละครในด้วย
ในสมัยโบราณก่อนแสดงละครในจะต้องมีการรำเบิกโรงละครก่อนแล้วจึงแสดงละครในเป็นเรื่องเป็นราว
ต่อไปการรำเบิกโรงละครในอย่างแรกคือ รำบรรเลง ต่อมาในสมัยราชกาลอื่น
ทรงเปลี่ยนการแสดงเบิกโรง ละครในชุดประเลงมาเป็นรำดอกไม้เงินทอง
และรำฉุยฉายกิ่งไม้เงินทอง
ในสมัยนั้นละครในทุกโรงจะต้องแสดงเบิกโรงชุดรำดอกไม้เงินทอง
และรำฉุยฉายกิ่งไม้เงินทองทุกครั้ง ก่อนจะแสดงละครใน
รำเบิกโรงกิ่งไม้เงินทอง
ได้รับการลืบทอดมาจากละครวังสวนกุหลาบในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา ที่ได้เชิญเจ้าจอมมารดาสาย
และเจ้าจอมละม้าย ในราชกาลที่ ๕
ซึ่งเดิมท่านทั้งสองเป็นละครหลวงรุ่นเล็กในราชกาลที่ ๔ และได้เคยเป็นผู้ร่ายรำมาก่อน
เข้ามาถ่ายทอดให้กับคณะละครวังสวนกุหลาบ นางลมุล ยมะคุปต์
ผู้เชี่ยวชาญการการสอนนาฎศิลป์ไทย วิทยาลับนาฏศิลป์ กรมศิลปะกร และนางเฉลย
ศุขะวณิช ผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากร
ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์) ปีพุทธศักราช ๒๕๓๐
ได้จดจำนำมาถ่ายทอดให้กับนักเรียนนาฏศิลป์ ศิลปากรสืบมา
และได้บรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนนาฏศิลป์ ในระดับนาฏศิลป์ขั้นสูง
นางลมุล ยมะคุปต์
ได้ถ่ายทอดรำเบิกโรงกิ่งไม้เงินทอง ให้นางสาวศิริวัฒน์ แสงสว่าง (ดิษยนันทน์)
และนางสาวนิตยา จามรมาน แสดงในงานพระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช ณ
พระที่นั่งไพศาลทักษิณเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ ๒๔๕๙๐
เป็นชุดรำเบิกโรงละครในเรื่องอิเหนา ตอนท้าวดาหาบวงสรวง
รำเบิกโรงกิ่งไม้เงินทอง
ที่จัดแสดงโดยสำนักการสังคีตปัจจุบัน เป็นผลงานการปรับปรุงของท่านผู้หญิงแผ้ว
สนิทวงศ์เสนี ซึ่งได้มีการนำรูปแบบการแสดงชุดรำกิ่งไม้เงินทอง
มาใช้ประกอบการแสดงในงานพิธี รัฐพิธีอันเป็นมงคล เช่น
รำถวายพระพรต้อนรับพระราชอาคันตุกะ โดยเพิ่มจำนวนผู้แสดงเป็นระบำหมู่แบบพระ – นาง ที่งดงามยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น